174 รวมเข้าชม, 1 เข้าชมวันนี้
]
นักลงทุนที่ถือสกุลเงินดอลลาร์สิงคโปร์และบาทไทยอาจจะต้องเผชิญกับการขาดทุน หากเงินหยวนของจีน อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เป็นผลจากที่จีนยังคงบังคับใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์
.
เงินดอลลาร์สิงคโปร์และบาทไทยได้ปรับตัวสูงสุดตามค่าเงินหยวนของตลาดต่างประเทศ (Offshore) ในตลาดเกิดใหม่แถบเอเชียเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ทั้งสองสกุลเงินดังกล่าวมีแนวโน้มถูกฉุดต่ำลงอีก หากเงินหยวนยังอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง
.
ขณะที่ ธนาคารกลางแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ออกมาเคลื่อนไหวเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยยุติการกำหนดเงินหยวนให้แข็งค่ามากกว่าการคาดการณ์ หลังจากที่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ซึ่งทำให้บรรดานักลงทุนต่างคาดว่าจีนกำลังจะลดการพยุงค่าเงินหยวน
.
ทั้งนี้ ค่าเงินหยวนในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนที่ซื้อขายกันทั้งในประเทศและต่างประเทศ (Onshore and Offshore) ปรับตัวลงมากที่สุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ในทวีปเอเชีย หลังจากทางการจีนยังคงออกมาประกาศตลอดทั้งสัปดาห์ว่าจะยังคงยึดมั่นในการใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ต่อไป
.
นอกจากนี้ เศรษฐกิจสิงคโปร์ซึ่งพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก ก็จะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนเช่นกัน ขณะที่การขาดแคลนนักท่องเที่ยวชาวจีนก็จะส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาท เนื่องจากรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวจีนมีสัดส่วนราว 20% ต่อเศรษฐกิจของไทยในช่วงก่อนการระบาดของโรคโควิด 19
ที่มา: AEC Connect
ASEAN Studies Centre