122 รวมเข้าชม, 1 เข้าชมวันนี้
]
ปัญหาการขาดแคลนไข่ยังคงสร้างความไม่พอใจแก่ผู้บริโภคชาวมาเลเซียอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ว่าไข่ที่ออกสู่ตลาดจะมีจำนวนเท่าไรก็ขายหมดเกลี้ยง และหลายฝ่ายกังวลว่าสถานการณ์ดังกล่าวนี้จะยืดเยื้อ
.
นาย Hong Chee Meng ประธานสมาคมสหพันธ์ผู้ค้าสินค้าเบ็ดเตล็ดของมาเลเซียกล่าวว่า ไข่ถูกขายหมดภายในไม่กี่ชั่วโมงเมื่อมาถึงร้านค้า ซึ่งภาวะไข่ขาดตลาดในครั้งนี้เกิดจากบรรดาฟาร์มสัตว์ปีกลดกำลังการผลิตลง เนื่องจากราคาข้าวโพดและถั่วเหลืองซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักในอาหารไก่เพิ่มสูงขึ้น
.
ทั้งนี้ ผู้คนต่างติดตามสถานการณ์การขายไข่ในละแวกที่พวกเขาอาศัยอยู่ผ่านทางโซเชียลมีเดีย ตัวอย่างเช่น นาง Lim Ai Swam แม่บ้านอายุ 45 ปี อาศัยอยู่ที่บาตู ปาหัต ในรัฐยะโฮร์ เล่าให้ฟังว่า พวกเธอจะคอยเข้าไปดูความเคลื่อนไหวในกลุ่ม ‘egg updates’ ในเฟซบุ๊ก และทันทีที่มีข่าวเรื่องการเติมสต็อกไข่ที่ร้านค้าใด ผู้คนก็จะแห่ไปต่อคิวซื้อกัน ซึ่งเธอเองต้องการไข่จำนวน 20 ฟองต่อสัปดาห์สำหรับครอบครัว ซึ่งปัญหาดังกล่าวนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
.
ด้าน นาย Tan Teck Hock ประธานสมาคมผู้ค้าสินค้าเบ็ดเตล็ดแห่งฝั่งกลังเผยว่า บรรดาผู้บริโภคต้องหันไปซื้อไข่กัมปง หรือไข่ที่มาจากการเลี้ยงไก่แบบปล่อยแทน แม้ว่าปริมาณไข่ประเภทนี้จะลดลง 50% เช่นกัน
.
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา รัฐบาลมาเลเซียได้ประกาศว่าจะคงเพดานราคาไข่เอาไว้ แต่บรรดาเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกได้ขอให้รัฐบาลปรับขึ้นราคา เพื่อช่วยให้พวกเขารับมือกับต้นทุนราคาอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้นได้ ทั้งนี้ กลไกการควบคุมราคาถูกใช้กับไข่เกรด A, B และ C ที่มีน้ำหนักระหว่าง 59.9 – 65 กรัม เท่านั้น ไม่ครอบคลุมถึงไข่ที่ถูกปรับแต่งให้อุดมด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 และไข่ที่ผลิตแบบออร์แกนิก หรือไข่กัมปง
.
ขณะที่ นาย Lee Yoon Yeau รองประธานสมาคมสหพันธ์เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์แห่งมาเลเซียเผยว่า ภาวะไข่ขาดตลาดจะยังคงไม่ดีขึ้น และจะดำเนินไปตลอดทั้งปีหน้า เว้นแต่รัฐบาลจะยอมปล่อยให้ราคาไข่ลอยตัว เพราะหากในอนาคตอันใกล้นี้ เงินริงกิตยังร่วงลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ วัตถุดิบอาหารสัตว์ที่นำเข้าจะมีราคาแพงขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจะนำไปสู่ต้นทุนการผลิตไข่ที่สูงขึ้น และเหล่าเกษตรกรจะถูกจำกัดทางการเงินมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ที่มา: AEC Connect
ASEAN Studies Centre