196 รวมเข้าชม, 1 เข้าชมวันนี้
]
ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์หรือผู้ผลิตชิปชั้นนำกำลังขยายกิจการในเวียดนาม ท่ามกลางการแข่งขันที่กำลังร้อนแรงในระดับโลก
เวียดนามได้ก้าวขึ้นมาเป็นจุดสนใจของหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตชั้นนำอย่าง Samsung หลังประกาศแผนจะเริ่มผลิตส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ความแม่นยำสูง (Ball Grid Array) ในโรงงานทางตอนเหนือของจังหวัดท้ายเงวียน ในเดือนกรกฎาคมปี 2566 โดยการเคลื่อนไหวดังกล่าวจะช่วยยกระดับชื่อเสียงของอุตสาหกรรมไมโครคอนดักเตอร์ของเวียดนามซึ่งเป็นผลจากขนาดธุรกิจและอิทธิพลต่างๆ ของ Samsung
Gu Wenjun หัวหน้านักวิเคราะห์ของบริษัทวิจัยตลาดเซี่ยงไฮ้ Icwise กล่าวว่า เวียดนามกำลังจะกลายเป็นจุดหมายปลายทางใหม่สำหรับอุตสาหกรรมไมโครคอนดักเตอร์ เนื่องจากมีเขตอุตสาหกรรมที่มีความชำนาญเรื่องของการทดสอบและและกระบวนการบรรจุวงจร
นอกจากนี้ บริษัทวิจัยตลาดของสหรัฐอเมริกา Technavio กล่าวว่าตลาดชิปของเวียดนามยังมีศักยภาพที่จะสามารถเติบโตได้ถึง 1.65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2568 ประกอบกับการใช้ IoT ที่เพิ่มมากขึ้นก็นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมดังกล่าว
อย่างไรก็ดี เวียดนามยังเป็นที่ตั้งโรงงานของ Intel ที่มีมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นเครือข่ายโรงงานผลิตทั่วโลกที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท
Steve Long ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นของ Intel กล่าวในเดือนพฤษภาคมว่า สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มั่นคงของเวียดนาม รวมถึงตลาดแรงงานที่มีแต่คนวัยหนุ่มสาวยังช่วยให้ Intel สามารถเอาชนะวิกฤติการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ได้ แต่ Technavio มองว่าอุตสาหกรรมชิปของเวียดนามยังขาดแรงงานที่มีทักษะและแรงงานส่วนใหญ่ยังคงทำแต่งานที่มีมูลค่าเพิ่มต่ำ
อย่างไรก็ดี นครโฮจิมินห์นับเป็นศูนย์กลางเซมิคอนดักเตอร์ของเวียดนาม มีวิศวกรด้านวงจรรวมเพียง 1,000 คนและมีวิศวกรด้านระบบสมองกลฝังตัวเพียง 2,000-3,000 คน โดยนาย Nguyen Anh Thi หัวหน้านิคมอุตสาหกรรมไฮเทคไซ่ง่อนกล่าวว่า จำนวนวิศวกรในปัจจุบันไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของอุตสาหกรรมที่จำเป็นต้องใช้แรงงานที่มีทักษะมากกว่าหลายหมื่นคนได้
ที่มา: AEC Connect
ASEAN Studies Centre