
ร่องรอยและอิทธิพุทธศาสนาสายธรรมตันตริกเถรวาทในอาเซียนราวพุทธศตวรรษที่ 18 (สุโขทัย) จนถึงปัจจุบัน: อิทธิพลและคุณูปการ
365 รวมเข้าชม
365 รวมเข้าชม ] หากพูดถึงตันตริกเถรวาทกับคนไทยคงจะต้องถูกถามว่าคืออะไร เพราะดูเหมือนเป็นคำที่ผลิตขึ้นใหม่ หากแต่ความจริงคำนี้ใกล้เคียงกับคำที่พระถั๋งซำจัง (เสวี้ยนจาง) เคยใช้เมื่อบันทึกถึงสภาพการณ์ พฤติกรรม การปฏิบัติของพระสงฆ์ พุทธศาสนาสมัยพระเจ้าหรรษวัฒนะ ช่วงท่านเดินทางไปยังอินเดี ว่า มหายาน-สถวีระ และ หีนยาน-สถวีระ ซึ่งหมายถึงพระสงฆ์ที่แม้จะอยู่อารามเดียวกันแต่ก็มุ่งเน้นปฏิบัติและเป้าหมายต่างกัน พร้อมกล่าวถึงพระสงฆ์ที่มหาวิหารและอภัยคีรีวิหารที่ศรีลังกา คำดังกล่าวยังปรากฎจารึกที่ลพบุรีสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ที่เกี่ยวถึงพระสงฆ์นักบวช โดยเฉพาะอรัณยกะ อิทธิพลจากอภัยคีรีวิหารกับมหาวิหารที่อยู่กันรอบเมือง มีอาวาส/อาราม เรียกว่า ตโปวนาวาสหรือตโปวนาราม ในจารึกกล่าวถึง พระมหายาน-สถวีระ แต่หมายถึงพระสงฆ์ที่สังกัดทั้งฝ่ายมหายานและเถรวาท ทำให้เกิดการผสมตันตรยานหรือวัชรยานกับเถรวาท เกิดเป็น ตันตริกเถรวาท หรือ วัชรเถรวาท คำนี้บ่งบอกถึงอิทธิพลตันตรยานที่มีต่อพระสงฆ์เถรวาทอุษาคเนย์ที่ยังคงปฏิบัติแนวปกปิด เป็นคุยหยาน มีคัมภีร์ปฏิบัติธรรมเป็นของตนเอง คือโบราณกัมมัฏฐาน เป็นคำที่ใช้อ้างถึงแนวทางปฏิบัติที่ลึกลับในพุทธศาสนาเถรวาทอุษาคเนย์เป็นการเฉพาะ นอกจากนี้ยังเกี่ยวกับเวทมนต์ คาถา พิธีกรรม บางครั้งเรียกว่า โยคาวจร เป็นพระพุทธศาสนาสายกระแสนิยมหลักก่อนเข้าสู่ยุคใหม่ ในลาว กัมพูชา ไทย พม่า ทางใต้เวียดนาม ผืนแผ่นดินใหญ่อาเซียน พุทธศาสนานิกายหรือกระแสธรรมที่มีอิทธิพลต่อแนวคิดตันตริกเถรวาท คือ สำนักนิกายอภัยคีรีวิหารในลังกาสำนักนี้ได้เคยเปิดรับมหายาน ตันตรยานหรือวัชรยานและมีอิทธิพลต่ออุษาคเนย์พร้อมการเผยแพร่ไปที่ชวา ทวารวดี ศรีเทพ ศรีจนาศะ ภาคอีสาณีตอนเหนือแถบแม่น้ำโขงและเขมรก่อนและสมัยพระนคร นอกจากนี้ยังมีพุทธศาสนานิกายอารี แม้ในพม่ารับอิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทจากมอญ ซึ่งมอญรับจากอินเดียใต้ ขณะพม่าที่รับอิทธิพลตันตรยานจากอินเดียภาคตะวันออกเฉียงเหนือพร้อมทางใต้ของจีน รวมทั้งการบูชาศาสนาพื้นถิ่น การบูชานัตและบูชานาค อีกปัจจัยที่ก่อเกิดตันตริกเถรวาทในอุษาคเนย์เกิดจากฮินดู มหายานตันตรยานสมัยเขมรโบราณยุคพระนครด้วย จะเห็นได้ว่า ในล้านนา อิทธิพลตันตริกเถรวาทเข้มข้น เช่น หลาบเงิน (แผ่นจารึกทำด้วยเงิน) มีอักษรจารึกธรรมมณีมนต์ (ธารณีมนต์) ที่อำเภอเชียงแสน จ. เชียงราย มันต์ดังกล่าวน่าจะเป็นของมหายานมันตรยาน มีบันทึกว่า ในสมัยพญากือนากษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งราชวงศ์มังราย มีเถระนามว่า จันทเถระได้ขึ้นไปประกอบพิธีสาธยายมนต์ชื่อ มหาโยคีมันรปะราทะ บนดอยสุเทพเพื่อเพิ่มพูนปัญญาของตน และยังพบตุงกระด้างอยู่ทั่วไปในล้านนา อิงความเชื่อเรื่องไสยต่างๆ เช่น การสะเดาะเคราะห์ การไล่ผีสิงตัวผู้ป่วย (สูตรก๋วม/สวดครอบ และการสืบชะตาเมือง เมื่อบ้านเมืองเกิดภัยพิบัติหรือข้าวยากหมากแพงเป็นต้น ยุคเบ่งบาน จารึกตันตริกเถรวาทย้อนไปถึงสุโขทัย คศ.ต.ที่ 16 จึงสามารถกล่าวได้ว่ามีเป็นการปฏิบัติที่เก่ากว่ารูปแบบการปฏิบัติกรรมฐานในโลกพุทธศาสนาเถรวาทปัจจุบัน คัมภีร์สำคัญ