Skip to content

Category: ข่าวกิจกรรมส่วนกลาง

ข่าวกิจกรรมส่วนกลาง
Avatar

ผลงานการวิจัยการท่องเที่ยววิถีพุทธ

 105 รวมเข้าชม

 105 รวมเข้าชม ] วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ วัดน่าเที่ยวใน 15 จังหวัดเมืองหลัก   บัณฑิตวิทยาลัย

อ่านต่อ »
ข่าวกิจกรรมส่วนกลาง
Avatar

ผลการวิจัยการนำพุทธนวัตกรรมจากผลการวิจัยไปใช้ส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีพุทธ

 157 รวมเข้าชม

 157 รวมเข้าชม ] ผลงานการวิจัย เรื่อง ฐานข้อมูลเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีพุทธในเมืองหลัก ๑๕ จังหวัดในระดับนานาชาติ บัณฑิตวิทยาลัย

อ่านต่อ »
ข่าวกิจกรรมส่วนกลาง
Avatar

การพิมพ์ใบเสร็จออนไลน์ สำหรับนิสิต

 227 รวมเข้าชม

 227 รวมเข้าชม ] กองคลังและทรัยพ์สิน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย บริการให้นิสิตสามารถดาวน์โหลดใบเสร็จออนไลน์ได้แล้ว ในเวบบริการการศึกษาของมหาวิทยาลัยที่  https://regweb.mcu.ac.th/  เมื่อเข้าสู่ระบบแล้วนิสิตสามารถ คลิกไปที่เมนู พิมพ์ใบเสร็จ  **ในกรณีไม่ขึ้นใบเสร็จรับเงิน ให้ติดต่อสำนักทะเบียนและวัดผล หรืองานทะเบียนและวัดผลในส่วนของวิทยาเขต วิทยาลัยสงฆ์ หน่วยวิทยบริการ เพื่อเซตในปฏิทินการศึกษา ** ดาวโหลดคู่มือได้ที่ https://fin.mcu.ac.th/?page_id=924 กองคลังและทรัพย์สิน

อ่านต่อ »
ข่าวกิจกรรมส่วนกลาง
Avatar

ประชุมสัมมนา เรื่อง “EdPEx National Forum for Excellence: Ten Years and Counting”

 132 รวมเข้าชม

 132 รวมเข้าชม ]         พระมหาเผื่อน กิตฺติโสภโณ, ผศ.ดร. ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายประกันคุณภาพการศึกษา พระครูปลัดปัญญาวรวัฒน์ ,ศ.ดร. ผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ พระมหาบุญเลิศ อินฺทปญฺโญ, ศ.ดร. รองผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี และพระมหาสุระศักดิ์ ธีรวํโส ผู้อำนวยการสำนักงานประกันคุณภาพ ได้เข้าร่วมประชุม สัมมนา เรื่อง “EdPEx National Forum for Excellence: Ten Years and Counting” มุ่งมั่นยกระดับมาตรฐานความเป็นเลิศในการบริหารจัดการสถาบันอุดมศึกษาไทย ณ โรงแรมเซนจูรี พาร์ค กรุงเทพ ระหว่างวันที่ 23-24 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งการประชุมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศขององค์กรที่ได้รับการยอมรับในระดับประเทศและได้รับรางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศ (Thailand Quality Class: TOC) เพื่อให้หน่วยงานอื่น ๆ ได้นำไปใช้เป็นแบบอย่างหรือประยุกต์ใช้ในการปรับปรุงกระบวนการและผลลัพธ์การดำเนินงานและบริหารองค์กรให้ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน 2. เพื่อสร้างความเข้าใจแนวทางการนำเกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพื่อการดำเนินการที่เป็นเลิศ (EdPEx) มาใช้ในการประกันคุณภาพภายใน 3. เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น […] สำนักงานประกันคุณภาพ

อ่านต่อ »
ข่าวกิจกรรมส่วนกลาง
Avatar

กองคลังฯ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ “การวิเคราะห์ต้นทุนต่อหน่วย Unit-Cost”

 146 รวมเข้าชม

 146 รวมเข้าชม ] กองคลังฯ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ “การวิเคราะห์ต้นทุนต่อหน่วย Unit-Cost” ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๕  เวลา ๑๓.๓๐ น. พระมหาปัญญา ปญฺญาสิริ, ดร. ผู้อำนวยการกองคลังและทรัพย์สิน เป็นประธานประชุม การจัดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (KM) เรื่อง การวิเคราะห์ต้นทุนต่อหน่วย เพื่อจัดทำต้นทุนต่อหน่วยของมหาวิทยาลัย ณ ห้องประชุม ๓๐๓ ชั้น ๓ อาคารสำนักงานอธิการ ในการนี้ กองคลังและทรัพย์สิน สำนักงานอธิการบดี ได้เชิญ ดร.สุทิศา จันทรบุตร ผู้อำนวยการกองคลัง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญญบุรี และนางสาวนนตา เศวตเมธิกุล นักวิชาการการเงินและบัญชี ชำนาญการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญญบุรี มาเป็นวิทยากรให้ความรู้การวิเคราะห์ต้นทุนต่อหน่วย และ รศ.ดร.กมลาศ ภูวชนาธิพงศ์ อาจารย์ประจำหลักสูตร สาขาวิชาพุทธจิตวิทยา คณะมนุษยศาสตร์ มาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการทำเชิงวิจัยและเป็นผู้ประสานงานศรัทธาวิทยากรทั้ง ๒ ท่าน กองคลังและทรัพย์สิน

อ่านต่อ »
ข่าวกิจกรรมส่วนกลาง
Avatar

สรุปผลการประชุมผู้นำ APEC 2022 ครั้งที่ 33

 354 รวมเข้าชม

 354 รวมเข้าชม ]   การประชุมสุดยอดผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation) หรือ APEC 2022 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตลอด 2 วันที่ผ่านมา (18-19 พฤศจิกายน) ปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์ ท่ามกลางความคาดหวังจากผลสำเร็จต่างๆ โดยเฉพาะด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน การประชุมครั้งนี้ถือเป็นการประชุมแบบพบหน้ากันครั้งแรกระหว่างผู้นำเขตเศรษฐกิจ APEC ในรอบ 4 ปี ซึ่งนอกจากจะเป็นเวทีหารือระหว่างผู้นำและผู้แทนจาก 21 สมาชิกเขตเศรษฐกิจ ยังเป็นพื้นที่สำหรับการหารือระดับทวิภาคีของไทยและประเทศต่างๆ ไปจนถึงการจัดประชุมฉุกเฉินในประเด็นระดับโลก อย่างการยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ของเกาหลีเหนือที่เกิดขึ้น โดยบรรดาผู้นำ APEC ยังมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับแขกพิเศษที่เข้าร่วมการประชุมคือ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส และเจ้าชายมูฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด มกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ซึ่งนอกจากการประชุมเวทีหลัก ยังมีเวทีคู่ขนานของผู้นำภาคธุรกิจ APEC (APEC CEO Summit) และการหารือระหว่างผู้นำ APEC กับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจ APEC ในขณะที่นายกรัฐมนตรียังได้ร่วมรับฟังมุมมองของกลุ่มผู้แทนเยาวชน APEC จาก APEC Voices of the Future 2022 ด้วย และนี่คือความสำเร็จและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการประชุมผู้นำ APEC 2022 ในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นเวทีประชุมที่สำคัญและเป็นอีกโอกาสของคนไทยทั้งประเทศ ปฏิญญาผู้นำ APEC 2022   ผลลัพธ์จากการประชุมที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวในการแถลงภายหลังการประชุม เรียกได้ว่าเป็นความสำเร็จและความภูมิใจ ภายหลังการทำงานอย่างหนักของทุกฝ่ายตลอดทั้งปีที่ผ่านมา คือการที่ผู้นำทุกเขตเศรษฐกิจสามารถบรรลุฉันทามติ รับรอง ‘ปฏิญญาผู้นำเขตเศรษฐกิจ APEC 2022’   การประกาศปฏิญญาผู้นำ APEC ฉบับนี้ ยังถือเป็นการสะท้อนผลสำเร็จของการเป็นเจ้าภาพ APEC ของไทย ที่ขับเคลื่อนให้ APEC

อ่านต่อ »
ข่าวกิจกรรมส่วนกลาง
Avatar

กัมพูชา คว้าแชมป์ ข้าวดีที่สุดของโลก

 488 รวมเข้าชม

 488 รวมเข้าชม ] กัมพูชาคว้าอันดับ 1 ในการประกวดข้าวโลกประจำปี 2565 หรือ World’s Best Rice 2022 Award ในงานประชุมสัมมนาข้าวโลก ซึ่งจัดขึ้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยข้าวพันธุ์ ‘ผกา ลำดวน’ (Phka Rumdoul) ได้รับการคัดเลือกให้เป็นข้าวที่ดีที่สุดประจำปีนี้ . นาย Dith Tina รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตร ป่าไม้ และประมง (MAFF) ได้เปิดเผยว่า ข้าวหอมเกรดพรีเมียมของกัมพูชาชนะการประกวดเป็นครั้งที่ 5 ในประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมข้าวของประเทศในปีนี้ ต่อจากเมื่อปี 2561, 2557, 2556 และ 2555 ซึ่งนับเป็นเกียรติประวัติที่ยิ่งใหญ่และเป็นความภาคภูมิใจของทั้งประเทศกัมพูชาและชาวกัมพูชาทุกคน โดยเฉพาะเมื่อเป็นเรื่องของคุณภาพข้าว . นอกจากนี้ การชนะการประกวดดังกล่าวจะช่วยให้โลกรู้จักกัมพูชามากขึ้นในฐานะผู้ผลิตข้าวคุณภาพดีที่สุดในโลก รวมทั้งช่วยส่งเสริมคุณภาพของข้าวอีกด้วย โดยข้าวกัมพูชามีรสชาติที่อร่อย และมีกลิ่นหอม ซึ่งมีทั้งสำหรับจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปยังตลาดอื่นๆ ทั่วโลก . ด้าน นาย Song Saran ประธานสหพันธ์ข้าวกัมพูชา เปิดเผยว่าการผลิตข้าวที่ดีที่สุดของกัมพูชานี้ ได้รับการสนับสนุนจากหลายฝ่าย ทั้งกระทรวงการเกษตร ป่าไม้ และประมง, กระทรวงพาณิชย์, สหพันธ์ข้าวกัมพูชา, เหล่าชาวนา, โรงสีข้าวต่างๆ ตลอดจนสมาคมการเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ . ทั้งนี้ รัฐมนตรีได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ด้านการเกษตร 2 คน ลงพื้นที่ไปที่จังหวัดพระตะบองและจังหวัดบันเตียเมียนเจย เพื่อหาแนวทางแก้ไขราคาข้าวเปลือกที่ตกต่ำของบรรดาเกษตรกรในท้องถิ่นอีกด้วย ที่มา: AEC Connect ASEAN Studies Centre

อ่านต่อ »
ข่าวกิจกรรมส่วนกลาง
Avatar

สินค้าเกษตร ลาว จ่อทะลักเข้า จีน

 209 รวมเข้าชม

 209 รวมเข้าชม ] บรรดาผู้คนที่อาศัยอยู่ในนครเซี่ยงไฮ้ จะได้ลิ้มลองผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่แปลกใหม่จาก สปป.ลาว กันแล้วในไม่ช้านี้ เนื่องมาจากข้อตกลงฉบับใหม่ที่เพิ่งได้รับการลงนามในงาน China International Import Expo (CIIE) ครั้งที่ 5 . รัฐบาลเขตหยางผู่ (Yangpu) ของจีน ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับกรมส่งเสริมการค้าของกระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ของ สปป.ลาว ระหว่างการจัดงาน CIIE เพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างทั้ง 2 ประเทศ โดยภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว หยางผู่จะสนับสนุนสินค้าเกษตรคุณภาพจาก สปป.ลาว เพื่อเข้านำเข้าสู่ตลาดท้องถิ่น อีกทั้งตอบสนองความต้องการของบรรดาผู้คนในท้องถิ่นอีกด้วย . ทั้งนี้ ศูนย์จำหน่ายอาหารนำเข้าของ สปป.ลาว จะถูกจัดตั้งขึ้นในหยางผู่ เพื่อให้บริการแก่ชาวเมืองเซี่ยงไฮ้และเมืองอื่นๆ ในภูมิภาคแถบดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี โดยสินค้าเกษตรหลักๆ ของ สปป.ลาว ได้แก่ ข้าว กล้วย มันฝรั่ง และข้าวโพด โดยสินค้าเกษตรบางชนิด เช่น ข้าวโพดหวาน มันสำปะหลังแห้ง และเสาวรส เป็นที่นิยมของผู้บริโภคชาวจีนอย่างมาก . ขณะที่ รัฐบาลได้เปิดเผยว่า บริษัทอินเทอร์เน็ตชั้นนำในหยางผู่จะช่วยจัดหาทรัพยากรดิจิทัลและแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆ ที่ดีกว่าเดิมเพื่อช่วยสนับสนุนการขายผลิตผลต่างๆ จาก สปป.ลาว ในจีน นอกจากนี้ ยังมองว่าข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ตลอดจนทางรถไฟจีน-ลาว จะช่วยทำให้ความร่วมมือระหว่างหยางผู่และกระทรวงอุตสาหกรรมฯ ของ สปป.ลาว เป็นไปอย่างราบรื่น โดยเหล่าประเทศสมาชิกภายใต้ข้อตกลง RCEP ทั้งหมด ต่างส่งองค์กรเข้าร่วมงาน CIIE ในปีนี้ รวมถึงจำนวนประเทศที่เข้าร่วมโครงการข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) และองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน เมื่อเทียบกับช่วงที่จัดงาน CIIE ครั้งที่ 4 โดย สปป.ลาว ได้เข้าร่วมงานดังกล่าวนี้เป็นเวลา 5 ปีติดต่อกันแล้ว . นอกจากนี้ กลุ่มการค้าของหยางผู่ ได้ลงนามในข้อตกลงซื้อสินค้ามูลค่ารวม 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่งาน CIIE ในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 8.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยมีการนำเข้าสินค้าที่สำคัญ

อ่านต่อ »
ข่าวกิจกรรมส่วนกลาง
Avatar

วิกฤติพลังงาน พลิกฟื้น พลังงานนิวเคลียร์ในเอเชีย

 167 รวมเข้าชม

 167 รวมเข้าชม ]   การยอมรับพลังงานนิวเคลียร์เกิดขึ้นหลังจากก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ถูกใช้เพื่อผลิตไฟฟ้าในเอเชียมีราคาพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากรัสเซียรุกรานยูเครนจนเกิดความสับสนอลหม่านในตลาดต่างๆ โดยหลายประเทศตัดสินใจไม่ซื้อพลังงานจากรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกพลังงานเชื้อเพลิงรายใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะทำให้พลังงานเชื้อเพลิงมีปริมาณน้อยลง และราคาก็ยิ่งจะไต่ระดับสูงขึ้นในอนาคต ในปี 2563 โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั่วโลกคิดเป็นสัดส่วนราว 10% ของไฟฟ้าทั้งหมดในโลก โดยมีเพียง 15 ประเทศที่ร่วมกันผลิตพลังงานนิวเคลียร์โลกได้มากกว่า 91% ซึ่งสหรัฐฯนั้นเป็นประเทศอันดับ 1 คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 31% รองลงมาคือ จีน ที่ผลิตพลังงานนิวเคลียร์ได้ที่ 13.5% และอันดับที่ 3 คือ ฝรั่งเศสที่ 13.3% แต่เมื่อมองในมุมที่ว่า ประเทศใดพึ่งพาพลังงานนิวเคลียร์มากที่สุด ประเทศฝรั่งเศสนำโด่งมาเป็นที่ 1 ในสัดส่วนที่มากถึง 70.6% ตามมาด้วยประเทศสโลวะเกีย 53.1% และประเทศยูเครนที่ 51.2% ทั้งนี้ มีเพียงประเทศเกาหลีใต้ที่เป็นประเทศจากเอเชียติดอันดับที่ 13 พึ่งพาพลังงานนิวเคลียร์ที่ 29.6% แม้ว่าบางประเทศ เช่น เยอรมนี มีแผนที่จะค่อยๆ ยกเลิกการใช้พลังงานนิวเคลียร์ แต่ความต้องการใช้พลังงานไร้คาร์บอนอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดการฟื้นคืนของ “พลังงานนิวเคลียร์” โดยขณะนี้รัฐบาลญี่ปุ่นและเกาหลีใต้กำลังยุตินโยบายต่อต้านนิวเคลียร์ ขณะที่ จีนและอินเดีย กำลังมุ่งสร้างเครื่องปฏิกรณ์มากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการขาดแคลนพลังงานในอนาคต และควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมถึงบรรดาประเทศกำลังพัฒนาทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่อยู่ระหว่างการสำรวจเกี่ยวกับเทคโนโลยีนิวเคลียร์เช่นกัน การยอมรับพลังงานนิวเคลียร์เกิดขึ้นหลังจากก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ถูกใช้เพื่อผลิตไฟฟ้าในเอเชียมีราคาพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากรัสเซียรุกรานยูเครนจนเกิดความสับสนอลหม่านในตลาดต่างๆ โดยหลายประเทศตัดสินใจไม่ซื้อพลังงานจากรัสเซียซึ่งเป็นผู้ส่งออกพลังงานเชื้อเพลิงรายใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะทำให้พลังงานเชื้อเพลิงมีปริมาณน้อยลง และราคาก็ยิ่งจะไต่ระดับสูงขึ้นในอนาคต ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้พลังงานนิวเคลียร์ที่ทั้งเป็นพลังงานสะอาดและเชื่อถือได้ ยิ่งเป็นที่น่าสนใจสำหรับเหล่าผู้นำประเทศที่ต้องการควบคุมเงินเฟ้อ, บรรลุเป้าหมายการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและลดการพึ่งพาผู้ค้าพลังงานจากต่างประเทศ การกลับมาของพลังงานนิวเคลียร์ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง โดยมีแรงสนับสนุนจากหลายประเทศนับตั้งแต่อังกฤษไปจนถึงอียิปต์ แต่ที่น่าประหลาดใจคือ เป็นไปได้อย่างไรที่พลังงานนิวเคลียร์กำลังเป็นที่สนใจในหมู่ประเทศเอเชียเช่นเดียวกัน เนื่องจากเคยเกิดภัยพิบัติที่นำความเสียหายอย่างใหญ่หลวงมาสู่ญี่ปุ่นเมื่อกว่า 10 ปีก่อนมาแล้ว ก่อนหน้านี้ อนาคตของพลังงานนิวเคลียร์ในเอเชียค่อนข้างจะสดใสจนกระทั่งเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิพัดถล่มฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่น สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิ ในเดือนมีนาคม ปี 2554 โดยวิกฤติการณ์ครั้งนั้น ทำให้รัฐบาลของหลายประเทศเชื่อว่าพลังงานนิวเคลียร์นั้นมีความเสี่ยงมากกว่าจะสร้างประโยชน์ ขณะที่เยอรมนีและไต้หวันตัดสินใจขีดเส้นตายที่จะปิดโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ อีกทั้งค่าใช้ง่ายจำนวนมหาศาลในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่และความล่าช้าที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งล้วนถูกมองว่าเป็นอุปสรรคด้วย เมื่อค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคต่างๆ สูงขึ้น และหลายชาติต้องต่อสู้กับเงินเฟ้อด้านพลังงานเชื้อเพลิง ทำให้รัฐบาลของหลายประเทศหันกลับมาให้ความสำคัญกับพลังงานนิวเคลียร์อีกครั้ง เนื่องจากพลังงานนิวเคลียร์ใช้แร่ยูเรเนียมเพียงเล็กน้อย เพื่อดำเนินการผลิตไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งต่างจากโครงการพลังงานหมุนเวียนอื่นๆ อย่างลมและแสงอาทิตย์ เหตุผลข้างต้นนี้ เป็นสิ่งที่สนับสนุนให้ญี่ปุ่นพิจารณาที่จะพัฒนาและสร้างเครื่องปฏิกรณ์ยุคใหม่ ขณะเดียวกันก็จะเริ่มกลับมาใช้เครื่องปฏิกรณ์เก่าที่ปล่อยทิ้งไว้มานานอีกครั้งด้วย ท่ามกลางเสียงสนับสนุนจากประชาชนราว 58% เช่นเดียวกันกับเกาหลีใต้ ในปีนี้ประชาชนได้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ที่เป็นผู้สนับสนุนพลังงานนิวเคลียร์ โดยผู้นำเกาหลีใต้ต้องการพลังงานนิวเคลียร์ให้มีสัดส่วนราว 30% ของการผลิตพลังงานทั้งหมด พร้อมให้คำมั่นจะทำให้เกาหลีใต้กลายเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ด้านอุปกรณ์นิวเคลียร์และเทคโนโลยี รวมทั้งผนึกพลังงานนิวเคลียร์และพลังงานหมุนเวียนเข้าด้วยกันเพื่อผลักดันให้ก้าวไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน “จีน” เป็นอีกประเทศหนึ่งที่กำลังเร่งมือจัดการกับโครงการพลังงานนิวเคลียร์และพลังงานน้ำ โดยจีนกำลังต่อสู้กับปัญหาคลื่นความร้อนครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ ที่ทำให้เกิดการขาดแคลนพลังงานในหลายพื้นที่ของประเทศ ซึ่งขณะนี้จีนกำลังสร้างเครื่องปฏิกรณ์ขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของนิวเคลียร์ เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานที่ไม่เพียงพอ และลดการพึ่งพาพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานฟอสซิล โดยข้อมูลจาก สมาคมนิวเคลียร์โลก (WNA) ระบุว่า ปัจจุบันจีนมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีกำลังการผลิต 24 กิกะวัตต์ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างและอีก 34 กิกะวัตต์อยู่ในแผน ซึ่งหากทั้งหมดนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จและบรรลุผลก็จะทำให้จีนกลายเป็นผู้ผลิตพลังงานนิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้าน “อินเดีย” ก็กำลังจับจังหวะการขยายเข้าสู่พลังงานนิวเคลียร์เช่นกัน เนื่องจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของอินเดียมุ่งที่จะสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ 2 แห่ง โดยปัจจุบันอินเดียสามารถผลิตไฟฟ้าราว 70% จากถ่านหินและอีกราว 3% จากนิวเคลียร์ แต่ผู้นำอินเดียตั้งเป้าที่จะผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ให้เกินกว่า 3 เท่าในอีก 10 ปีข้างหน้า ไม่เพียงแต่ชาติเอเชียขนาดใหญ่ที่กลับมาให้ความสำคัญกับพลังงานนิวเคลียร์กันอย่างคึกคัก แม้กระทั่งประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เองก็หันกลับมามองพลังงานนิวเคลียร์ โดยฟิลิปปินส์กำลังศึกษาเกี่ยวกับโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เพื่อลดต้นทุนไฟฟ้า และปรับปรุงด้านการจัดหาพลังงานต่างๆ ให้ดีขึ้น ส่วนอินโดนีเซียวางแผนที่จะเริ่มดำเนินการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แห่งแรกของประเทศในปี 2588 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายของประเทศที่จะบรรลุ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี ขณะที่

อ่านต่อ »
ข่าวกิจกรรมส่วนกลาง
Avatar

CLMV ชู 4 ประเทศ 1 จุดหมายปลายทาง กระตุ้นท่องเที่ยว

 256 รวมเข้าชม

 256 รวมเข้าชม ] นาย Thong Khon รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวของกัมพูชาได้เปิดเผยระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวของกลุ่มประเทศ CLMV ครั้งที่ 6 ซึ่งจัดขึ้นที่จังหวัดเสียมราฐว่า ทั้งกัมพูชา สปป. ลาว เมียนมา และเวียดนาม ได้ตกลงนำแผนความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว 3 ปี ระหว่างปี 2566-2568 มาใช้ โดยจะให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้เกิดความตระหนักรู้ในเรื่อง ‘4 ประเทศ 1 จุดหมายปลายทาง’ พร้อมเรียกร้องให้มีการผลักดันแผนนี้ให้สามารถใช้งานได้จริงและมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย . นอกจากนี้ แผนความร่วมมือดังกล่าวยังเน้นเรื่องการอำนวยความสะดวกให้การเดินทางระหว่างภูมิภาคง่ายขึ้น, การสร้างขีดความสามารถด้านการท่องเที่ยว, การมีส่วนร่วมของภาคเอกชนและบรรดาชุมชนท้องถิ่น, การพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยว, การทำโปรโมชั่นร่วมกัน ตลอดจนความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยว . ขณะที่ คณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้บรรดาเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการท่องเที่ยว เตรียมข้อเสนอโครงการท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อส่งต่อไปยังหน่วยงานประสานงานระดับชาติของกลุ่มประเทศ CLMV ตามทิศทางในอนาคตและแผนความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว เพื่อขออนุมัติเงินทุนจากเหล่าพันธมิตรในการดำเนินการ . อย่างไรก็ตาม คณะรัฐมนตรีชื่นชมความคืบหน้าของความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวของกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งรวมถึงการขับรถท่องเที่ยวด้วยตนเอง, การเดินทางทางอากาศที่เพิ่มมากขึ้นและเที่ยวบินตรงที่เชื่อมต่อจุดหมายปลายทางต่างๆ ในภูมิภาค, การอำนวยความสะดวกในการเดินทาง โดยการลดอุปสรรคที่ไม่จำเป็น รวมถึงการขยายวีซ่าอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนการส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบจาริกแสวงบุญผ่านเส้นทางที่มีสถานที่สำคัญๆ ที่เชื่อมต่อกันภายในภูมิภาค นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการกระชับกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและการตลาดร่วมกัน รวมถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ รวมถึงนิทรรศการและงานแสดงสินค้าท่องเที่ยวด้วย . ทั้งนี้ จากแถลงการณ์ร่วมระบุว่า กลุ่มประเทศ CLMV ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบ 4 ล้านคนในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ที่มา: AEC Connect ASEAN Studies Centre

อ่านต่อ »