Month: November 2022

 323 รวมเข้าชม

 323 รวมเข้าชม ] ขอเชิญบุคลากร เจ้าหน้าที่ในสังกัดสำนักส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการสังคม และกองสื่อสารเข้าร่วมการอบรมเชิงปฏบัติการ เรื่อง “การใช้งานระบบประชุมอิเล็กทรอนิกส์ (MCU E-MEETING)” ในวันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน 2565 เวลา 13.00-16.30 น. ณ ห้องประชุมสำนักหอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ ชั้น 4 มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย     สำนักส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการสังคม

 210 รวมเข้าชม

 210 รวมเข้าชม ] สำนักส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการสังคม

 299 รวมเข้าชม

 299 รวมเข้าชม ] สำนักส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการสังคม

 324 รวมเข้าชม,  1 เข้าชมวันนี้

 324 รวมเข้าชม,  1 เข้าชมวันนี้ ] วันจันทร์ที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๕ เวลา ๑๓.๐๐ น. พระมหาสุรศักดิ์ ปจฺจนฺตเสโน รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ ในฐานะประธานกรรมการร่างแผนพัฒนาวิทยาลัยพระธรรมทูต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาและวิพากษ์แผนพัฒนาวิทยาลัยพระธรรมทูต ณ ห้องประชุมพระมงคลสิทธาจารย์ สำนักทะเบียนและวัดผล อาคารเรียนรวม มจร ชั้น ๓ พระนครศรีอยุธยา การนี้ มีคณะกรรมการเข้าประชุม ประกอบด้วย รศ.ดร.พระมหาสมบูรณ์ วุฑฺฒิกโร รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ รศ.ดร.สุรพล สุยะพรหม รองอธิการบดีฝ่ายกิจการทั่วไป รศ.ดร.พระสุธีรัตนบัณฑิต ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ ดร.พระครูศรีสิทธิบัณฑิต ผู้อำนวยการสำนักทะเบียนและวัดผล ผศ.ดร.บุญมี พรรษา ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ พระมหาประยูร โชติวโร, รักษาการผู้อำนวยการวิทยาลัยพระธรรมทูต รศ.ดร.โกนิฏฐ์ ศรีทอง รองผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ พระมหาวิเชียร สุธีโร ป.ธ.๙ ผู้อำนวยการสำนักงานวิทยาลัยพระธรรมทูต พระมหาศักดิ์ชาย โกวิโท ผู้อำนวยการสำนักงานวิชาการ วิทยาลัยพระพระธรรมทูต มหาไพฑูรย์ ปนฺตนนฺโท พระมหายงยุทธ กนฺตาโภ อาจารย์ประจำวิทยาลัยพระธรรมทูต และ นางสาวสุธิดา มีเพียร ผู้อำนวยการส่วนบริหาร สถาบันภาษา เลิกประชุมเวลา ๑๕.๓๐ น.ฯ News: International Relations Division Reporter: Phra Siriwanna Siriwanno, IRD English News: Phra Siriwanna Siriwanno, IRD Picture:  Foreign Affairs of MCU กองวิเทศสัมพันธ์

 265 รวมเข้าชม

 265 รวมเข้าชม ] วันศุกร์ที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๕ เวลา ๐๙.๐๙ น. พระมหาสุรศักดิ์ ปจฺจนฺตเสโน รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ ประชุมเตรียมพิธีลงนาม MoU กับ ผู้บริหารวัดจงไถซาน Chung Tai Chan Monastery ณ ห้องประชุมวัดจงไถซาน ซอยโรงพยาบาลพระราม ๙ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร โดยมี Venerable Shi Juan Qi, Abbot of Great Buddha Monastery, Venerable Shi Xing Ming พร้อมด้วยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่วัดจงไถซานเข้าประชุม การนี้ มี ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของวิทยาลัยพระธรรมทูตและกองวิเทศสัมพันธ์เข้าประชุม ประกอบด้วย พระมหาโกศล ธีรปญโญ ผู้อำนวยการกองวิเทศสัมพันธ์ พระมหาวิเชียร สุธีโร ป.ธ.๙ ผู้อำนวยการสำนักงานวิทยาลัยพระธรรมทูต พระสิริวรรณะ สิริวณฺโณ รองผู้อำนวยการกองวิเทศสัมพันธ์ พระมหาไพฑูรย์ ปนฺตนนฺโท และ พระมหายงยุทธ กนฺตาโภ อาจารย์ประจำวิทยาลัยพระธรรมทูต พระครูใบฎีกา ดร.แสงเฮือง นรินฺโท นักวิชาการศึกษา กองวิเทศสัมพันธ์ และ พระมหาสุเทพ สุวฑฺฒโน นักวิเทศสัมพันธ์ วัดจงไถซาน (Chung Tai Chan Monastery) เป็นวัดพุทธที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่สองในไต้หวัน และมีสิ่งปลูกสร้างสูงที่สุด ด้วยความสูงถึง ๑๓๖ เมตร (๔๓ ชั้น) หากมองจากด้านข้างจะเห็นได้ว่าตัวอาคารเชื่อมต่อกันเป็นรูปทรงของพระพุทธรูปปางสมาธิ วัดสร้างเสร็จสมบูรณ์ในเดือนกันยายน ปี ค.ศ. ๒๐๐๑ โดยสถาปัตยกรรมแห่งนี้ได้รับการกล่าวถึงอย่างมาก ผู้ออกแบบคือคุณ CY Lee สถาปนิกคนเดียวกับที่ออกแบบตึกไทเป ๑๐๑ ใช้เวลาก่อสร้างถึง ๑๐ ปีด้วยเงินบริจาคมหาศาล วัดจงไถซาน มีสาขาอยู่หลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทย

 241 รวมเข้าชม,  1 เข้าชมวันนี้

 241 รวมเข้าชม,  1 เข้าชมวันนี้ ] วันศุกร์ที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๕ เวลา ๑๕.๐๙ น. พระเดชพระคุณพระธรรมาจารย์ซินติ้ง ประธานมูลนิธิพุทธรังษี กรรมการอุปถัมภ์โครงการอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เมตตาถวายโอกาสให้ พระมหาสุรศักดิ์ ปจฺจนฺตเสโน รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ นำคณะผู้บริหาร คณาจารย์และเจ้าหน้าที่วิทยาลัยพระธรรมทูตและกองวิเทศสัมพันธ์ เข้าน้อมถวายสักการะ ณ ห้องพักรับรอง สถาบันพุทธศาสนาเถรวาท มหายาน ฝอกวงซัน ไท่ฮวาซื่อ ถนนคู้บอน แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร ผู้บริหาร คณาจารย์และเจ้าหน้าที่ของวิทยาลัยพระธรรมทูตและกองวิเทศสัมพันธ์เข้าถวายสักการะ ประกอบด้วย พระมหาโกศล ธีรปญโญ ผู้อำนวยการกองวิเทศสัมพันธ์ พระมหาวิเชียร สุธีโร ป.ธ.๙ ผู้อำนวยการสำนักงานวิทยาลัยพระธรรมทูต พระมหาศักดิ์ชาย โกวิโท ผู้อำนวยการสำนักงานวิชาการ วิทยาลัยพระธรรมทูต พระสิริวรรณะ สิริวณฺโณ รองผู้อำนวยการกองวิเทศสัมพันธ์ พระมหาไพฑูรย์ ปนฺตนนฺโท และ พระมหายงยุทธ กนฺตาโภ อาจารย์ประจำวิทยาลัยพระธรรมทูต พระครูใบฎีกา ดร.แสงเฮือง นรินฺโท นักวิชาการศึกษา กองวิเทศสัมพันธ์ และ พระมหาสุเทพ สุวฑฺฒโน นักวิเทศสัมพันธ์ โอกาสนี้ พระเดชพระคุณพระธรรมาจารย์ซินติ้ง ได้เมตตาแสดงธรรมปฏิสันถาร และมอบถวาย พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า แก่รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ และคณะผู้บริหาร จากนั้น รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ ได้กราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณท่านที่เมตตาถวายการอุปถัมภ์โครงการอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศ พร้อมกับน้อมถวายสิ่งของที่ระลึกและพระปฏิมากรแก่พระเดชพระคุณ สุดท้าย ก่อนจะกราบลา พระเดชพระคุณท่านเมตตาถวายโอกาสให้ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศและคณะผู้บริหาร คณาจารย์และเจ้าหน้าที่ได้เจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล กราบลาพระเดชพระคุณพระธรรมาจารย์ซินติ้ง เวลา ๑๕.๔๙ น. News: International Relations Division Reporter: Phra Siriwanna Siriwanno, IRD English News: Phra Siriwanna Siriwanno, IRD Picture:  Foreign Affairs of MCU กองวิเทศสัมพันธ์

 298 รวมเข้าชม,  1 เข้าชมวันนี้

 298 รวมเข้าชม,  1 เข้าชมวันนี้ ] นักลงทุนที่ถือสกุลเงินดอลลาร์สิงคโปร์และบาทไทยอาจจะต้องเผชิญกับการขาดทุน หากเงินหยวนของจีน อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เป็นผลจากที่จีนยังคงบังคับใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ . เงินดอลลาร์สิงคโปร์และบาทไทยได้ปรับตัวสูงสุดตามค่าเงินหยวนของตลาดต่างประเทศ (Offshore) ในตลาดเกิดใหม่แถบเอเชียเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ทั้งสองสกุลเงินดังกล่าวมีแนวโน้มถูกฉุดต่ำลงอีก หากเงินหยวนยังอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง . ขณะที่ ธนาคารกลางแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ออกมาเคลื่อนไหวเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยยุติการกำหนดเงินหยวนให้แข็งค่ามากกว่าการคาดการณ์ หลังจากที่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ซึ่งทำให้บรรดานักลงทุนต่างคาดว่าจีนกำลังจะลดการพยุงค่าเงินหยวน . ทั้งนี้ ค่าเงินหยวนในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนที่ซื้อขายกันทั้งในประเทศและต่างประเทศ (Onshore and Offshore) ปรับตัวลงมากที่สุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ในทวีปเอเชีย หลังจากทางการจีนยังคงออกมาประกาศตลอดทั้งสัปดาห์ว่าจะยังคงยึดมั่นในการใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ต่อไป . นอกจากนี้ เศรษฐกิจสิงคโปร์ซึ่งพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก ก็จะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนเช่นกัน ขณะที่การขาดแคลนนักท่องเที่ยวชาวจีนก็จะส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาท เนื่องจากรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวจีนมีสัดส่วนราว 20% ต่อเศรษฐกิจของไทยในช่วงก่อนการระบาดของโรคโควิด 19 ที่มา: AEC Connect ASEAN Studies Centre